2020 - 2021

2020 - 2021

Year In Review นี่เขียนครั้งสุดท้ายตั้งแต่ปี 2019 เลย ปีที่แล้วตั้งท่าว่าจะเขียนสุดท้ายก็ไม่ได้เขียน ปีนี้เลยขอเอาใหม่ เหมารวบ 2 ปีเลยละกัน

📚 Live & Learn

มันมีช่วงเวลาที่เราตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราอยากจะทำอะไรกันแน่ แล้วมันก็ตอบไม่ค่อยได้ แต่สิ่งที่ช่วยให้ตอบคำถามนี้ได้เร็วขึ้นคือการต้องเปลี่ยนงานแบบกระทันหันตอนช่วงต้นปี 2020 เลยทำให้ทุกๆ อย่างที่เคยคิดไว้ต้องเปลี่ยนไปหมดเลย แล้วเริ่มนับ 1 ใหม่

ช่วงปี 2020 แทบจะทั้งปี เป็นช่วงที่ตั้งคำถามเรื่องนี้กับตัวเองจริงจังมากๆ เพราะพอมันต้องมาอยู่ใน environment ใหม่อะไรที่เคยคิดว่าทำแล้วเวิร์คมันไม่เวิร์ค โลกบางครั้งก็ไม่ได้หมุนในจังหวะที่เราคุ้นเคย เป็นปีที่ต่อสู้กับ Self-esteem ตัวเองหนักมาก เรียกได้ว่าพังทลายเลย

จำได้ว่าช่วงปลายๆ ปี 2020 เป็นช่วงที่ฟื้นกลับมาละ แล้วกำลังตามหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจจนได้ไปเรียน Math for Working Programmer เลยได้กลับมาสนใจ Foundation ของการโปรแกรมหลายๆ อย่างที่ต้องยอมรับจริงๆ ว่าอยู่รอดมาได้หลายปีโดยไม่ได้ศึกษา และมันถึงเวลาที่ต้องศึกษาแล้ว ประกอบกับช่วงนั้นย้ายที่ทำงานอีกรอบพอดี เลยได้ทดลองอะไรใหม่ๆ หลายอย่างเลย

พอจิตใจตัวเองกลับมาดีแล้วอะไรๆ มันก็กลับมาดีตาม มีพลังทั้งไปเรียนเยอะมาก (How to Design Program, NAND2Tetris, Programming Languages Part A, Certified ScrumMaster) และไปสอนก็เยอะมากเช่นกัน แล้วมันทำให้ภาพที่ตัวเองตามหาว่าอยากทำอะไรมันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ตอบได้เต็มปากว่าเรื่องที่สนใจคือ Programming Language (PL) และยังตื่นตาตื่นใจทุกครั้งที่เจอ paradigm ใหม่ๆ ในหลายๆ ภาษาครับ

👨‍👩‍👧‍👦 Refactoring Club

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ตัวเอง Shift ความสนใจจาก Software Engineering มา PL ส่วนหนึ่งเพราะ ความล้มเหลวจากการทำ Refactoring Club รอบนี้ด้วย ซึ่งมันเริ่มด้วยความตั้งใจมากๆ ในช่วงที่มีพลังสูงมาก แต่หลังจากที่ทำไปได้ 4 session ในช่วง 2 เดือนก็ยอมรับตามตรงเลยว่าหมดพลังเพราะงานอื่นๆ ที่ถาโถมเข้ามา

ซึ่งผมเสียใจมากไปพักนึงเลย ที่ไม่สามารถทำให้มันไปได้จนถึง 10 session อย่างที่ตั้งใจไว้ มันมีหลายครั้งตลอดปี 2021 ที่ผมก็คิดว่า อยากจะกลับไปพูดคุยกับคนใน Club แต่ก็ไม่กล้ามาจนถึงวันนี้ แต่ถึงจะเสียใจแค่ไหน สำหรับ Software Engineering ผมยังหาโอกาสจะไปถ่ายทอดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งโชคดีมากที่พี่ทอยชวนไปสอนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเลยได้ปล่อยของออกไปบ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงกับที่ตั้งใจไว้กับ Refactoring Club

👨‍💼 Java and IT Enterprise

ผมเขียน Python มาตลอดชีวิต มีโอกาสต้องไปทำหน้าบ้านบ้างตามหน้าที่ แต่หลักๆ ก็โฟกัสอยู่กับหลังบ้านกับ Python นั่นทำให้ Python เป็น safe-zone ผมมาตลอดหลายปี จนกระทั่ง 2020 ต้องเปลี่ยนงานกระทันหัน แล้วจับพลัดจับพลูมาเขียน Java ซึ่งไม่เคยเขียนเลยตั้งแต่เรียนปี 2 ในมหาลัย ซึ่งถ้ามามองย้อนกลับไปในช่วงพยายามปรับตัวกับ Idiom กับ Semantics ของ Java นี่ก็ทำให้ได้รู้อะไรหลายอย่างเลย ที่ควรทำและไม่ควรทำ และเข้าใจวิธีคิดอีกโลกด้วย แต่ก็ไม่ได้อยากอยู่โลกนี้ไปตลอดนะ

อีกสิ่งคือ ผมทำงานในบริษัทไม่ใหญ่มากมาตลอด และด้วยความที่ทีมมันเล็ก ทำให้พอย้ายงานมาอยู่ใน Enterprise เลยค้นพบว่า Autonomy ของเรามันลดลงมากๆ มากจนหลายๆ ครั้งอึดอัด จนต้องต่อสู้กับจิตใจตัวเองว่า เรามาทำอะไรที่นี่นะ เลยเป็นที่มาของเรื่อง Self esteem ข้างบนนั่นแหละ

สุดท้ายแล้ว ถ้าจะมีอะไรที่เป็นเหตุผลให้ไปทำงานในทุกๆ วันนอกจากจะไปสู้รบปรบมือกับโค้ดชาวบ้านที่สามารถแคปมาวิพากษ์วิจารณ์ได้ไม่เว้นแต่ละวัน ผมว่าผมโชคดีที่ผมมีทีมที่ยังทำงานด้วยสนุกอยู่ และยังได้ทำงานกับคนที่เก่งหลายๆ คนที่ยังได้ให้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ อยู่บ้าง

🏖 Finding Peace

ช่วง 2 ปี 2020-2021 นี่เป็นช่วงเวลาที่ผมมีปัญหากับการตามหาความสงบมากๆ ส่วนหนึ่งเพราะการต้องออกจาก Safe-zone แล้วไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ทำให้หลายๆ ครั้งอยากจะถอยออกมาตั้งหลัก หายใจลึกๆ ก่อนที่จะเดินต่อ ในโลกที่แม่งหมุนเร็วชิปหาย

แต่มันตลกตรงที่ว่า ในช่วงเวลาที่ผมแทบจะทนไม่ไหวตลอด 2 ปีที่ผ่านมา มันจะมีเหตุการณ์ให้ผมต้องหลุดออกมาจากตรงนั้นออกมาหายใจ โดยที่ผมไม่ได้เลือกเองทุกครั้ง เช่นในปี 2020 ผมมีเหตุให้ต้องไปใช้ชีวิตอยู่บ้านเกิดแฟนที่อรัญประเทศอาทิตย์นึงเต็มๆ แล้วเว้นไปหนึ่งอาทิตย์ก็มีเหตุให้ต้องกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านตัวเองที่บุรีรัมย์ ช่วงเวลานั้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่อยู่กรุงเทพฯ มาตั้งแต่เรียนมหาลัยเลยที่มีความคิดว่า กลับไปอยู่บ้านมันก็ดีเหมือนกันนะ Pace มันวิ่งช้ากว่าเยอะมากเลย

อีกครั้งนึงก็ปีนี้ซึ่งผมหมกมุ่นกับคอนเซปของการปิดเทอมมากๆ (หนังสือหลายๆ เล่มจะชอบพูดว่า Mini-retirement) ซึ่งประกอบกับปีนี้มันรู้แล้วว่ามีเรื่องอยากจะไปเรียน อยากจะไปอ่านหนังสือและหลายคอร์สที่เรียนไม่ไหว เพราะต้องทำงานไปด้วย เลยอยากจะออกไปนั่งเรียนมันยาวๆ ให้รู้แล้วรู้รอด ให้ Enlightenment มันเกิด แต่ปีนี้ก็โดนซัดด้วยต่อมน้ำเหลืองอักเสบจนเข้าโรงพยาบาล แล้วต้องพักยาวๆ ไปสองอาทิตย์ติดกัน

⏰ Time > Money

ต่อจากเรื่องข้างบนคือ พอเราอยากจะหาความสงบ มันก็กลายๆ ว่ามันต้องการหาเวลา ให้มากขึ้น ทำให้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเลือกที่จะไม่รับงานนอกอะไรเพิ่มอีกเลย แต่ต้องบอกว่าจะไม่มาถึงจุดนี้เลย ถ้าทั้งงานหลักและงานเสริมที่ดูแลค้างมาอยู่ไม่ support ให้อยู่ได้โดยไม่ต้องขวนขวายหาเงินมากไปกว่านี้

ซึ่งที่พยายามหลักๆ คือพยายามเลิกงานให้ตรงเวลา หาเวลามาดูท้องฟ้าตอนเย็นๆ ห้าโมงหกโมง ครั้งสุดท้ายที่ผมเคยโหยหา Moment แบบนี้คือตอนย้ายจากทำงานเลิกสี่ทุ่มมาเลิกเวลาเหมือนชาวบ้าน ซึ่งผมบอกได้เลยว่า ช่วงเวลาที่ได้ดูท้องฟ้ามันมืดลงแต่ละวันนี่มันดีต่อใจมากเหลือเกิน และมันช่วยชาร์จพลังเราในแต่ละวันให้พร้อมสำหรับวันต่อไปมากๆ

ส่วนเรื่องเงินปี 2020 อาจจะมีหนี้อยู่บ้างเพราะต้องหา Mac มาใช้เองไม่ได้ใช้ของบริษัทอีกต่อไป แต่พอปี 2021 พอปลดล็อกแล้วก็ไม่เหลือหนี้ระยะยาวเลย และไม่มีแผนจะสร้างเร็วๆ นี้ด้วยเพราะยังอยากคล่องตัวอยู่ แต่ถึงแม้จะไม่มีทรัพย์สินติดตัวเป็นชิ้นเป็นอัน แต่มีทรัพย์สินเป็นตัวเลขกระจายไปใน ETF, MF, SET, Crypto ฯลฯ บ้างให้มันไม่ขี้เกียจเกินไป

🐤 Gatuk

อยากจะพูดถึงกะตั๊กหน่อย เพราะว่าปี 2020 - 2021 มันไม่ใช่ช่วงที่ง่ายเลย มันมีหลายช่วงที่หนักจนรับไม่ไหว มันมีหลายช่วงที่ใกล้จะบ้าแล้ว หรือหลายความคิดก็สุดโต่งเกินไป ถ้าไม่ได้มีกะตั๊กคอยเตือนสติไว้ ตอนนี้ก็จินตนาการไม่ออกเลยว่าตัวเองจะเป็นไงบ้าง

กะตั๊กไม่ใช่ว่าจะเออ ออทุกเรื่องด้วยนะ เป็นคนที่มีความคิดของตัวเองและโตมาในโลกที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงก่อนจะมาเจอกัน ทำให้การได้เห็นโลกในมุมมองของกะตั๊กอะ มันทำให้เรารู้ว่า บางทีเราก็เห็นแก่ตัวเกินไป หลายครั้งก็มีคนลำบากกว่าเราตั้งเยอะ และช่วงดึงกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงให้ยังเป็นผู้เป็นคนอยู่บ้าง

📝 Footnotes

  • กลับมาอ่านหนังสือแล้วหลังจากที่ 2019 - 2020 นี่อ่านน้อยมาก 2021 นี่อ่านเยอะมาก แต่ถ้าชอบสุดยังยกให้ The Phoenix Project ที่เพิ่งมีเวลาอ่านซักที
  • งานอดิเรกไหลไปตามอารมณ์เคยมีช่วงที่บ้า Chess มากๆ ช่วงที่กลับมาบิน Flight Sim จริงจัง ช่วงประกอบ Keyboard ชงชา ส่วนตอนนี้มีความสุขกับการสะสม Clone Trooper อยู่
  • ปี 2020 ไม่ได้พูดงานอะไรเลยหลังจาก 2019 ที่จัด PySomtum มาให้ตัวเองพูด 2021 ไปพูดที่ PyCon APAC 2021 ซึ่งนอกจากได้ไปพูดและจัดงาน ได้ไปร่วม Panel discussion: Future of Python กระทบบ่ากับคนที่เราเคยได้แต่เขียนข่าวถึงในเพจ
  • ปีนี้ลดการทำเพจไปอย่างมีนัยยะสำคัญ ถึงแม้จะยังอยู่กับ Python community แต่ก็ไม่ค่อยได้แชร์อะไร แต่กลับกันคือ กลับมาเขียนบล็อกจริงจังมากขึ้นและ settled กับ Hashnode แล้วหลังจากหนี Medium ออกมา
  • สิ่งที่คุ้มที่สุดที่เสียตังค์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาคือ ประกันสุขภาพแบบ IPD ซึ่งถ้าไม่มีตัวนี้บอกเลยว่าที่เข้าโรงพยาบาลล่าสุดนี่เสียเกือบแสน แต่นี่คือไม่เสียตังค์แม้แต่บาทเดียว
  • เกมที่เล่นแล้วประทับใจที่สุดในช่วง 2 ปีนี้เป็น Uncharted 4 ซึ่งก็เพิ่งมีโอกาสได้เล่นหลังจากมันออกมาชาติกว่าละ แต่ประทับใจทุกอย่างมันรวมๆ กันไปหมด
  • ปีนี้ไป Conference เยอะมาก ไม่รู้ควรจะขอบคุณ COVID ดีมั้ยที่ทำให้งานต่างๆ จัด Online หมดเลยได้ไปหมดเลยทั้ง PyCascades, PyConBY, PyCon US, DjangoCon EU, TDD Conf และ PyCon APAC ซึ่งหลายๆ งานถ้าจะมีอะไรที่ติดก็คือ Timezone นี่แหละยิ่ง PyCon US นี่เวลานอนที่แท้ทรู
  • ปีนี้จับพลัดจับพลูได้ไปสัมภาษณ์กับ Microsoft APAC กับ Campaign: Code; Without Barriers
  • โอลิมปิกปีนี้ทำให้ค้นพบว่าตัวเองชอบดู High Jump กับ Pole Vault มาก
  • ปีนี้ Relearn flow ในการทำงานของตัวเองทั้งเปลี่ยน Keyboard มาใช้ Ergodox, เปลี่ยน layout มาใช้ Dvorak และล่าสุดเปลี่ยน Text Editor หลักจาก Vim มาเป็น Emacs แต่อีกอย่างที่มีผลมากๆ คือเปลี่ยนมาทำงานจอใหญ่จอเดียว หลังจากต่อสองจอมาหลายปี
  • อยากบันทึกไว้ด้วยว่าปี 2020 เคยจัดงาน Event แล้วไม่มีคนมางานแม้แต่คนเดียว (นอกจาก Speaker) แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ COVID เพิ่งมาด้วยแหละ
  • ถึงแม้สองปีนี้จะไม่ค่อยได้ไปเที่ยวแต่ทริปที่ประทับใจสุดคือการเที่ยวในกรุงเทพแล้วไปค้นพบร้าน The Never Ending Summer และแกงเผ็ดเป็ดย่างของเขานี่แหละ
  • สุดท้ายตลอด 2 ปีมานี้เวลามองออกไปนอกหน้าต่างจะคิดถึงอยู่อย่างเดียว IHTFP
155695.jpg