2017
ถ้าหากว่าธีมของปีที่แล้วเป็นการพัฒนาตนเองในด้านร่างกาย ปีนี้คงเป็นการพัฒนาตนเองในด้านจิตใจอย่างไม่ต้องสงสัยเลย หลายอย่างที่เคยทำก็ไม่ได้ทำ หลายอย่างที่ไม่เคยทำก็ได้ทำ ถึงแม้ปีนี้จะวุ่นวายแค่ไหน แต่ปีนี้ก็ส่งพี่จั๊วะมาย้ำสิ่งสำคัญอย่างนึงซึ่งผมหลงลืมไปคือ เราทุกคนควรจะมีเพื่อน แล้วเพื่อนนี่แหละจะพาเราผ่านความยากลำบากต่างๆ นาๆ ไปได้ 🙋♂️
Finance 💰
ถ้าจะมีอะไรที่เป็นข้อผิดพลาดของชีวิตแล้วผมพยายามแก้ปัญหามันมาตลอดสองปีกว่าคือหนี้ครับ ผมเรียกได้เลยว่าผมใช้บัตรเครดิตได้ผิดหลักการจนมันนำไปสู่หนี้ก้อนใหญ่มาก จนผมขยับตัวไม่ได้ เรียกได้ว่ามีหนี้ปักกลางหลังจริงๆ ปีนี้ตลอดปีที่ผ่านมาผมเลยพยายามลดก้อนหนี้ให้ได้ ถึงแม้จะมีงานเสริมเข้ามานอกจากงานหลัก แต่มันก็จะมีกระเพื่อมขึ้นๆ ลงๆ ตลอด ไม่หมดไปซักที จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งหลังจากที่ทุกคนปากเปียก ปากแฉะบอกให้ผมเก็บตังค์ซะที พอเก็บตังค์เท่านั้นแหละ ชีวิตเปลี่ยนเลยครับ พอเริ่มมีเงินเก็บ เราก็ไม่อยากให้มันหายไป และก็อยากให้มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากเอามาใช้ ผมก็เก็บเรื่อยๆ เดือนละนิดๆ หน่อยๆ จนวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมาผมก็ไม่เหลือหนี้บัตรเครดิตแม้แต่บาทเดียวแล้ว แถมมีเงินเก็บอีกต่างหาก ✨
Reading 📚
ปีนี้เป็นปีที่กลับมาอ่านหนังสือเยอะมากอีกครั้ง จนถึงกับต้องซื้อชั้นวางหนังสือเพิ่มเลยทีเดียว หนังสือที่อ่านปีนี้ก็มีหลายแนวตั้งแต่ Technical, Programming, จิตวิทยา, วิทยาศาสตร์, ประวัติศาสตร์ ยัน เศรษฐศาสตร์ รวมถึงไม่ได้อ่านแค่เป็นเล่มแต่ eBook ก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญในปีนี้ หนังสือที่ชอบที่สุดในปีนี้มีสามเล่มคือ The Miracle of Dunkirk, Moneyball และ The little book of Hygge
นอกจากหนังสือแล้วพวก Blog, Newsletter ก็อ่านเพิ่มขึ้นเหมือนกัน จนหลายๆ ครั้งรู้สึกว่า Information Overload แล้วก็ไม่อ่านไปดื้อๆ เลย แต่ตลอดปีก็พยายามแก้ปัญหา Link Overload ซึ่งแต่ก่อนจะเก็บไว้ใน Facebook Saved พอมี Toby ออกก็เอาไปดองไว้ในนั้น พอตอนนี้มาใช้ Firefox เลยพยายามเปลี่ยนมาใช้ Pocket คู่กับ Liner ก็พอทำให้ลิ้งที่ดองมีคุณค่ามากขึ้น เพราะเรารู้ว่าเราดองไปทำไมด้วย Liner แต่ก็ยังไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดเพราะกับ Video Conference อย่างงี้ก็ไม่รู้จะ Highlight ยังไง ก็ยังคงตามหาวิธีที่มีประสิทธิภาพกันต่อไป
Work 👨💻
ตั้งแต่ทำงานมาเกือบสี่ปี นี่เป็นปีแรกที่ไม่ได้พิมพ์บล็อคครบรอบการทำงานในแต่ละปี เพราะคิดว่า Cycle มันเปลี่ยนและมันตรงกับเดือนธันวาคม (ผมเริ่มงานปัจจุบันวันที่ 1 ธันวาคม ปีที่แล้ว) เพราะฉะนั้นเลยคิดว่าจะมาพิมพ์ไว้ใน Year in Review นี้แทน
ต้องขอบคุณ Pronto Tools อย่างนึงที่ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมายอมให้ได้ทำในสิ่งที่ชอบคือ Back-end เป็นหลักแล้วทำอย่างอื่นอย่าง Front-end หรือ Infra นิดๆ หน่อยๆ ปีนี้ได้อยู่กับ Django REST Framework ตลอดทั้งปีจนจากเคยเป็นคนแปลกหน้ากัน Serializer ยังไม่รู้จักเลย จนเดี๋ยวนี้แทบจะขึ้นโปรเจ็คได้โดยไม่เปิด Document เลย นอกจากนั้นแล้วยังได้ทำ Celery กับ Elasticsearch ตั้งแต่ 0 ด้วย เลยได้รู้ได้เจออะไรแปลกๆ เยอะมาก ถ้ามีโอกาสคงได้เขียนเล่าให้ฟังกัน
แต่มีเรื่องดีก็ต้องมีเรื่องแย่ ปีนี้เป็นปีที่ทำงานหนักเหมือนกัน จนลืมคำว่า Work-Life Balance ไปเลย แล้วค่อนข้างจะมีปัญหาด้านจิตใจอย่างมากหลายเดือนเลย โชคดีที่ Pronto มีโครงการ Big Little แล้วโชคดีที่ได้ Big เป็นพี่ออน ซึ่งแทบจะไม่รู้จักเลยตอนแรก แต่ตลอดเวลาหลายเดือน แม้จะคุยกันไม่กี่ครั้ง แต่ทุกครั้งที่คุยกันจะได้มุมมองใหม่ๆ ที่เปลี่ยนไปจากคนที่เคยมองอะไรอย่างที่ตัวเองเห็น กลายเป็นคนที่มองอะไรหลายมุมมากขึ้น เข้าใจโลกอย่างที่มันควรจะเป็นมากขึ้น และเข้าใจคำว่า Susu! ใน Pronto Value มากขึ้นด้วย
นอกจากงานประจำการอยู่ Pronto Tools นี่ก็ทำให้มีโอกาสได้รู้จักกับคนใหม่ๆ อยู่ตลอด นอกจากงาน Meetup ที่ไปกันเกือบตลอดแล้ว ปีนี้ก็เป็นอีกปีที่ได้ไป CE Smart Career แต่เปลี่ยนบริษัทก็แปลกดี แต่ก็ยังสนุกเหมือนเดิมที่ได้กลับไปโม้ให้น้องๆ ฟังว่าเราทำอะไร นอกจากนั้นยังจับพลัดจับพลูไปเป็น Product Owner ที่งาน Woman Techmaker ที่ ม.เกษตร ศรีราชา ซึ่งก็เป็นครั้งแรกที่ได้ใช้ APIStar ปั้น API ขึ้นมาแบบด่วนๆ คืนเดียวเสร็จ มีไปเตะบอลกับตีปิงปองกับ Kaidee และอีกหลาย Event แต่ที่ชอบที่สุดของปีนี้คือการได้ไปโม้ Asynchronous Programming in Python ที่ Code Mania ด้วย 🐍
นอกจากงานหลวงแล้ว ปีนี้เป็นปีที่ทำงานนอกเยอะมาก ต้องขอบคุณฟอร์ซที่หางานมาให้ทำเรื่อยๆ ไม่งั้นคงไม่ได้เจอประสบการณ์ที่ต้องแบกคอมหนีพายุฝน น้ำท่วม คนรุมเป็นร้อย รับโหลดเป็นพัน ฯลฯ ข้อดีของการได้ทำงานนอกคือ ผมได้ทดลองอะไรใหม่ๆ เยอะมาก ฟอร์ซก็ได้ระบบที่ทำให้ Workflow มันดีขึ้นก็วินๆ ทั้งคู่ ถึงแม้ว่าบางช่วงมันจะเหนื่อยมากๆ เพราะ requirements เปลี่ยนบ่อย แต่โดยรวมแล้วก็มีความสนุกดี และคิดว่าคงจะได้ลุยอะไรมันๆ ด้วยกันอีกปีหน้า
Travel 🏝
ปีนี้ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวบ่อยเหมือนปีที่ผ่านๆ มาเพราะงานยุ่งมากด้วยส่วนหนึ่ง ปีนี้ถ้าจะไปต่างจังหวัด ไม่กลับบ้านก็จะไปทำงานซะมากกว่า (ชลบุรี, ขอนแก่น) แต่ถ้าจะมีไปเที่ยวจริงๆ ก็มีที่ไปภูเก็ตครั้งแรกในชีวิต เพิ่งเคยนั่งเครื่องบินลอยอยู่เหนือทะเลครั้งแรก (ภาพเหมือนใน FSX มาก) แต่ก็ยังไม่รู้จักภูเก็ตเท่าไร ส่วนใหญ่อยู่บนรถมากกว่า
ถึงแม้จะเป็นเที่ยวจริงๆ จังๆ ครั้งเดียว แต่เป็นครั้งเดียวในปีนี้ที่รู้สึกผ่อนคลายมาก เหมือนทิ้งโลกไว้ข้างหลังในเวลาไม่กี่วัน ปีนี้เลยคุยกันกับตั๊กว่า ปีหน้าเราต้องไปเที่ยวให้บ่อยกว่านี้นะ แล้วเจอกันที่เชียงใหม่
อื่นๆ 📦
- ปีนี้ซื้อคีย์บอร์ดใหม่เป็น CODE Keyboard (Tenkeyless) Brown switch เพราะว่าหนวกหู Ducky ตัวเก่ามาก
- ปีนี้ซื้อ Fit Bit ซะทีเป็นอะไรที่อยากได้มาหลายปีมาก สุดท้ายซื้อ Surge เหตุผลเดียวเลยคือมันมี GPS ในตัว
- ปีนี้ซื้อหูฟังใหม่ Marshall mid Bluetooth หลังจากซื้อไม่กี่วัน Marshall Mode EQ ตัวเก่า พังทันที คืองงมาก ฆ่าตัวตายเหรอ
- ปีนี้ตอนเป็นลีดเดอร์ที่พรอนโต้ได้เริ่ม Policy ที่จะแชร์ Knowledge กันง่ายๆ โดยสร้างห้อง #learn-today ใน Slack ไม่เคยคิดเลยว่าห้องที่สร้างผ่านไปหลายเดือนก็ยังมีความ Active อยู่และหลายคนชอบถึงแม้จะไม่ได้โพสอะไรทุกวันเหมือนแรกๆ แล้วก็ตาม ไอเดียเริ่มต้นของห้องนี้มาจาก blog นี้
- ปีนี้คิดว่าจะย้ายมาเขียนบน Medium ละลาก่อน Blogger ที่อยู่คู่กันมานาน ว่างๆ ก็เข้าไปอ่านได้ที่ https://yothinix.blogspot.com
- ปีนี้เขียนบล็อคที่มีคนอ่านเกินพันวิวอยู่สองครั้งคือ
- ปีนี้ซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่สามชิ้นคือ โต๊ะกินข้าว ชั้นหนังสือ และก็โคมไฟ
- ปีนี้ตัดแว่นไปสองครั้ง ครั้งที่สองถึงรู้ว่าสายตาตัวเองเปลี่ยนแล้วกลายเป็นเอียง 100 สั้น 50 ทั้งสองข้างเลย
- ปีนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่คบกับใครเกินหนึ่งปี กะตั๊กได้ทำลายทุกสถิติที่โยธินมีก่อนหน้านี้หมดเกลี้ยง รวมทั้งน้ำหนักตัวของโยธินด้วยที่ทำ new high เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และผ่านมาหนึ่งปีก็ยังยืนยันคำเดิมว่า มีแฟนนี่แหละจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น
- Super bowl LI ดูอยู่ออฟฟิส Pronto และโชคดีที่ได้ดู เพราะเป็น Comeback ที่เป็นตำนานไปอีกหลายปีแน่ๆ
- เพลงที่ฟังบ่อยที่สุดของปีนี้คือ I Got You ของวง Mild ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไร เพราะไปทำงานกับฟอร์ซทุกครั้งก็เจอวง Mild ทุกครั้ง ฟังจนติดหูเลย
- หนังที่ชอบปีนี้มี Dunkirk กับ Star Wars: The Last Jedi ปีนี้ดูหนังน้อยลงเยอะมาก และถ้าดูก็จะไปดูแต่ IMAX แทบไม่ได้ดูโรงธรรมดาเลย แต่ถ้าเป็นหนังที่ดูบ่อยที่สุดในปีนี้ก็จะมีสองเรื่องเหมือนกันคือ Moneyball ชอบดูเวลารู้สึกเหนื่อย ท้อแท้กับชีวิตเวลาเห็นชีวิตของ Billy Beane จะรู้สึกว่า เห้ยมันยังมีคนที่เจอปัญหายากกว่าเราอยู่อีกนะ กับ Arrival อันนี้เพราะกะตั๊กชอบดูมากแล้วต้องดูด้วย
- ปีนี้ดูซีรีย์ไม่เยอะมากเพราะยังคง Commitment ที่จะเก็บ Star Trek ให้หมดอยู่ แต่ผ่านมาหนึ่งปีเต็มๆ นี่ก็ยังเก็บ Star Trek: The Next Generation ไม่หมด (เหลืออีก 2 Season) แถมปีนี้มี Star Trek: Discovery ออกมาอีกก็เลยยิ่งช้าไปอีก
- ปีนี้ดู Talk Show สองครั้งหัวปีท้ายปีเลย รู้สึกดีใจที่ได้เห็นพี่ยูมาไกลขนาดนี้ จากวันที่เคยไปฟังที่ร้าน Z Book
- ปีนี้ยังสอบนักบินไม่ติดอยู่ดี มันมีคำพูดนึงที่คนคุมสอบพูดไว้ในปีนี้ แล้วมันเจ็บลึกไปถึงข้างใน แต่ก่อนก็ไม่เข้าใจหรอก แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว คือ
มีความฝันอย่างเดียวไม่ได้… ต้องมีความพยายามด้วย บางคนสอบมาสามปี บางคนสอบมาสี่ปี…
- สุดท้ายปีนี้มีนามบัตรแล้วหล่อมาก อิอิ ✨
Original post at: https://yothinix.medium.com/2017-7e8c5e8a7598